ชิงรักหักสวาท - เรื่องย่อ

ละครช่อง8

ละครเรื่อง - ชิงรักหักสวาท

เรื่องย่อ

ละครชิงรักหักสวาท - ออกอากาศทุกวันจันทร์ - พุธ

เวลา 08.00 / 12.30 / และ 20.00 น. ทางช่อง 8

บทประพันธ์โดย : วาทินีย์ โอฬาร์กร

บทโทรทัศน์โดย : สติมา และ ศิกานต์

กำกับการแสดงโดย : อดุลย์ บุญบุตร และ ศุภฌา ครุฑนาค

ผลิตโดย : บริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด

ควบคุมการผลิตโดย : เมย์ เฟื่องอารมย์

Teaser

ชิงรักหักสวาท

เรื่องย่อ . . .

เรื่องราวความรักความแค้นที่แสนจะพัวพัน ตั้งแต่สมัยรุ่นพ่อแม่ตกทอดมายังรุ่นลูก เมื่อรักของตนไม่สมหวังความรักของคนรุ่นหลังก็จงอย่าได้สำเร็จเลย

เรื่องราวชิงรักหักสวาทเริ่มต้นขึ้นในเรือนใต้หล้า ซึ่งเป็นเรือนของคหบดี “แสน” ผู้มั่งคั่ง (สมชาย เข็มกลัด) แสนนั้นเป็นชายหนุ่มรูปงามที่ทำหน้าที่ค้าขายทางเรือจนมีฐานะร่ำรวยเป็นเศรษฐีโดยที่เขาเองนั้นมีภรรยาอยู่ 1 คนชื่อว่า แก้ว (สุจิรา อรุณพิพัฒน์) แสนและนางแก้วนั้นได้อยู่กินกันฉันท์สามี ภรรยาจนกระทั่งมีลูกชายหนึ่งคนชื่อว่ากล้า (วิทวัส สิงห์ลำพอง) ทันทีที่กล้าได้ถือกำเนิดขึ้นมานั้น ซินแสเทียน (อาจารย์วิโรจน์ ตั้งวาณิชย์) ได้ทำนายไว้ว่า กล้าจะเป็นคนที่นำเอาความอัปยศอดสูมาสู่วงศ์ตระกูล ทำให้แสนผิดหวัง จึงตัดสินใจหาภรรยาใหม่เพื่อมีทายาทเป็นศรีแห่งวงศ์ตระกูล จนกระทั่งแสนไปเที่ยวหอนางโลม และได้มาเจอบุหงา (ภัครมัย โปรตระนันท์) หญิงคัณณิการ์ ดาวเด่นแห่งหอนางโลม ด้วยมารยาของบุหงา ทำให้แสนหลงเสน่ห์ และยอมลงทุนซื้อตัวเธอมาเพื่อเป็นภรรยาอีกคน และเพื่อหวังให้เธอมีทายาทที่ดีกว่ากล้า ไว้ค้ำจุนวงศ์ตระกูล สร้างความไม่พอใจแก่นางแก้ว ภรรยาคนแรกของเจ้าสัวยิ่งนัก

ในที่สุดบุหงาก็ตั้งท้องขึ้น ยิ่งทำให้นายแสนรักและเห่อลูกในท้องของบุหงามากขึ้น บุหงาใช้มารยา ดึงนายแสนให้อยู่กับตนตลอดเวลา ซ้ำยังคอยพูดจาถากถางนางแก้วให้ช้ำใจ ที่นายแสนไม่เหลียวแล บุหงาตั้งความหวังว่าลูกในท้องต้องเป็นผู้ชายแน่ๆ แต่ลูกคนแรกของเธอเป็นผู้หญิง ดังนั้นเธอจึงสั่งให้นังเจียม (อะตอม) ซึ่งเป็นบ่าวรับใช้ให้กำจัดเด็กกับหมอตำแยเพื่อปิดปาก เจียมฆ่าหมอตำแยตาย แล้วนำเด็กไปให้กับแม่เล้าเว่ยชิง (ณหทัย พิจิตตรา) โดยเว่ยชิงนั้นได้เลี้ยงเด็กคนนี้ด้วยความสงสาร และตั้งชื่อให้ว่าฟ้าหยาด (อริสรา) ส่วนบุหงาได้โกหกแสนว่าเธอนั้นคลอดลูกเป็นผู้ชายแต่เสียชีวิตตอนคลอด ทำให้แสนจากที่เคยเห่อลูกในท้องของบุหงาก็เริ่มที่จะเบื่อหน่าย นายแสนจึงกลับไปหานางแก้วที่เรือนใหญ่ เมื่อมีงานที่ไหน ก็มักจะพานางแก้วออกงานแทน สร้างความไม่พอใจให้แก่บุหงาเป็นอย่างยิ่ง

ต่อมาไม่นานหลังจากนั้น ทั้งนางแก้วและบุหงาก็ได้ตั้งท้องลูกคนที่สองขึ้น และคลอดลูกคนที่สองในเวลาไล่เลี่ยกัน โดยคราวนี้นางแก้วคลอดลูกเป็นชายและให้ชื่อว่าหาญ (สิทธา สภานุชาติ) ส่วนบุหงาคลอดลูกคนที่สองก็ยังคงเป็นหญิง ตั้งชื่อว่าสายฝน (ณัฎฐพัชร วิพัธครตระกูล) ซึ่งยิ่งทำให้บุหงาแค้นใจมากยิ่งขึ้น เพราะแสนหันกลับไปคืนดีกับนางแก้วรวมไปถึงยกย่องเชิดชูนางแก้วให้เป็นเมียใหญ่ดังเดิม เพราะให้กำเนิดลูกชายเป็นศรีแห่งวงศ์ตระกูลได้สมใจนึกของเจ้าสัวแสน

กาลเวลาผ่านไป 20 ปี ความอิจฉาริษยาก็ยังคงสะสมอยู่ในตัวบุหงา แสนคิดที่จะวางมือจากธุรกิจ และหวังให้หาญผู้ซึ่งฉลาดปราดเปรื่องดำเนินกิจการต่อ เขาจึงได้เรียกให้ซินแสเทียนมาทำนายดวงเพื่อหาคู่ครองที่เหมาะสมกับดวงของหาญ เพื่อหนุนให้เป็นใหญ่ในอนาคตซึ่งหญิงผู้นี้ก็คือเดือน (กุลมาศ ลิมปวุฒิวรานนท์) ทาสในเรือนเบี้ยนั่นเอง

"เดือน" กับ "ดาว" (ณปภัช วัฒนากมลวุฒิ) ทั้งคู่เป็นทาสในเรือนเบี้ยของใต้หล้า เกิดและ เติบโตจากพ่อแม่ที่เป็นทาสเช่นเดียวกัน แต่นิสัยของทั้งคู่กลับแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เพราะเดือน เป็นคนที่มีจิตใจงดงาม เจียมเนื้อเจียมตัว ส่วนดาวเป็นคนใจคด ทะเยอทะยาน อยากหลุดพ้นจากความเป็นทาส จนสามารถทำทุกวิถีทางให้ได้มาซึ่งความต้องการของตน

เนื่องจากว่าหาญนั้นได้ชอบพอกับเดือนอยู่ก่อนหน้าแล้ว ดังนั้นการแต่งงานกับเดือนจึงเป็นเรื่องที่น่ายินดี แต่สำหรับดาว เมื่อดาวรู้เรื่องเดือนจะได้เป็นเมียคุณหาญ ก็เจ็บแค้นใจเป็นอันมาก จึงร่วมมือกับบุหงาคิดแผนชั่วเพื่อกำจัดเดือนไปให้พ้นทาง เพราะบุหงาก็ไม่ต้องการให้หาญได้ดี จึงวางแผนจัดฉากให้ดูเหมือนว่า เดือนกับไอ้เมฆลักลอบได้เสียกัน โดยที่ดาวจะต้องยอมเสียตัวให้กับ ไอ้เมฆ (พสิน เรืองวุฒิ) ทาสที่แอบหลงรักดาวอยู่ เพื่อเป็นสินจ้างรางวัล และแผนการสำเร็จการแต่งงานลับๆ เพื่อหนุนดวงหาญ ก็เป็นอันชะงักลงทันที แต่ดาวก็ยังไม่ไว้วางใจจึงขอให้บุหงาช่วยกำจัดเดือนด้วยการเอาไปขายเพื่อกำจัดให้พ้นทาง แล้วกุเรื่องขึ้นว่าเดือนหนีตามผู้ชายไป เดือนได้ถูกนำตัวไปขายให้กับตลาดค้าทาส และมีแม่เล้าหอนางโลมมาซื้อตัวไป

เมื่อหาญได้รับรู้ข่าวว่าเดือนหนีตามผู้ชายไปแล้ว ทำให้เขาเสียใจ และจำต้องตัดใจจากเดือน และเมื่อไม่มีเดือน ดาวก็ยิ่งหาทางวางแผนให้ตัวเองกลายเป็นคู่บุญกับหาญแทนเดือน แล้วโชคก็เข้าข้างดาว เมื่อดาวบังเอิญรู้ความลับของ "กล้า" ว่าเป็นชายแต่เพียงในร่าง โดยแท้ที่จริงแล้ว "กล้า" ชอบผู้ชายด้วยกัน และแอบลักลอบมีสัมพันธ์กับ "หยก" (จิรายุทธ คันธยศ) หลานชายของซินแสเทียน โดยที่ซินแสเทียนก็รู้เรื่องนี้เป็นอย่างดี ดาวจึงบังคับให้ซินแสเทียนกลับคำทำนายว่า ดาวต่างหากที่เป็นคู่บุญของหาญที่แท้จริง ไม่อย่างนั้นดาวจะเอาเรื่องของหยกกับกล้าไปฟ้องนายแสน ซินแสเทียนเป็นห่วงหลานชายและสงสารกล้าจึงยอมทำตามดาว

เมื่อหาญรู้ข่าวจากดาว และคนในบ้านว่าเดือนหนีตามผู้ชายไป ก็เสียใจมาก ในขณะที่คำทำนายนั่นส่งผลให้นายแสนจัดการเรื่องแต่งงาน ลับ ๆ ขึ้นทันที ถึงแม้นางแก้วจะไม่ค่อยเชื่อ แต่เพราะขัดนายแสนไม่ได้จึงต้องยอม จนในที่สุดหาญจำเป็นต้องแต่งงานกับดาว โดยที่เขาไม่ได้รักดาวเลยแม้แต่น้อย หาญไม่ได้มีใจผูกพันกับดาว เหมือนที่มีต่อเดือน ทำให้เขาไม่คิดยุ่งเกี่ยว กับเธอฉันท์ชู้สาว ไม่ว่าดาวจะพยายามอย่างไร ก็ไม่เป็นผล ยังความโกรธแค้น และความเก็บกดมาให้กับเธอยิ่งนัก แต่ท่ามกลางเรื่องราวที่วุ่นวาย ก็สร้างความพอใจ และความสะใจให้แก่บุหงาที่คอยหาทางทำลายนางแก้ว และลูกชายทั้งสองอยู่เสมอๆ

ฝ่ายเดือนเองหาทางหลบหนีออกมาได้ และมาเจอแม่หญิงบุษบาบรรณ (ชรัฐฐา อิมราพร) ลูกสาวของเจ้าพระยา ด้วยความมีเมตตาปราณีของแม่หญิงบุษบาบรรณ จึงทำให้เดือนยอมอยู่รับใช้ ซึ่งบุษบาบรรณได้ออกอุบายให้เดือนไปตัดผมสั้น เพื่อปลอมตัวเป็นผู้ชาย และใช้ชื่อว่า “ตะวัน”

และแล้วโชคชะตาก็ได้พาให้เดือน หรือชื่อใหม่ตะวัน กลับมาพบกับหาญอีก แต่เป็นการพบกันที่มีความยุ่งยาก อิรุงตุงนัง เพราะในขณะที่ไม้กำลังจะหล่นใส่บุษบาบรรณ หาญจึงเข้าไปช่วยดึงบุษบาบรรณเข้ามาชิดตัว ทำให้คนที่เห็นเหตุการณ์ ไปลือกันว่าทั้งคู่กอดกันในที่สาธารณะ จนในที่สุดทั้งคู่ต้องสยบข่าวลือด้วยการแต่งงานกัน โดยมีตะวันเป็นบ่าวติดตามดูแลบุษบาบรรณอย่างใกล้ชิด